ไม่มีนาฬิกาอะไรเหมาะกับทริปในวันหยุดยาวเท่ากับ OMEGA Seamaster อีกแล้ว นอกจากมีคุณสมบัติรอบด้าน ทั้งกันน้ำ แรงกระแทก เลยไปถึงอุณหภูมิที่ผันผวนได้ยอดเยี่ยมแล้ว พวกเขายังมีนาฬิกาหลากหลายขนาด มากดีไซน์ และฟังก์ชั่นเพียบ
ใครไม่รู้ว่าถอยนาฬิกาเรือนไหนออกทริปหรืออาศัยจังหวะคนออกเที่ยวไปถอยนาฬิกาเรือนใหม่ก็ไม่ว่ากัน อ่านเรื่องราวใต้ภาพแล้วจะพบคำตอบในแบบของคุณทันที
1. นาฬิกา OMEGA Seamaster Diver 300M
ตัวเลือกแรกขอยกให้เรือนนี้เลย เพราะด้วยขนาด 42 มม. ที่ขึ้นข้อได้ไม่ยาก ดีไซน์เกลียวคลื่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเฉดสีที่มีให้เลือกมากมาย ทั้งน้ำเงิน เขียวเข้ม ดำ ขาว เทา รวมถึงสีใหม่อย่าง Summer Blue ที่ไล่เฉดสีน้ำเงินสะท้อนความลึกระดับ 300 เมตร ซึ่งเป็นคุณสมบัติของนาฬิกาตระกูลนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครต่อใครหลงใหลและเลือกใส่ออกทริปเสมอ
2. นาฬิกา OMEGA Seamaster Aqua Terra 150M WorldTimer
คำตอบของนักเดินทางตัวยง เพราะนาฬิกาเรือนเดียวสามารถแสดงไทม์โซน 24 เมืองสำคัญรอบโลก (รวมถึงกรุงเทพฯ) พร้อมกัน เพียงหมุนปรับเข็มนาฬิกากึ่งกลางหน้าปัดเป็นเวลาที่ต้องการ แผ่นเพลตแสดงเวลาจะเคลื่อนให้ตรงกันเมืองต่างๆ ทั้งหมดทันที นาฬิกาตระกูลนี้ยังเพิ่มความงามด้วยการใช้เลเซอร์สลักแผนที่นูนต่ำจนสวยงามสมจริง ดังนั้นทุกครั้งที่ก้มมองเวลาจะเห็นแผนที่โลกสวยๆ ไปพร้อมกัน
3. นาฬิกา OMEGA Seamaster Aqua Terra 150M
ส่วนนักเดินทางที่ต้องการนาฬิกาสปอร์ตเรียบๆ แนะนำ Seamaster Aqua Terra 150M เวอร์ชั่นสามเข็มและ Small Seconds ภายใต้ดีไซน์สปอร์ตหน้าปัดลายขวางที่ได้แรงบันดาลใจจากดาดฟ้าเรือยอร์ช หรือหน้าปัดเฉดสีสันกับ Aqua Terra Shades 11 เฉดสี หรือ Summer Blue ที่สวยไม่แพ้กัน จับคู่มากับสายยางลายถักหรือสายโลหะให้เลือกใส่ตามชอบ ทั้งยังมีขนาดที่เหมาะกับข้อมือสาวๆ และหนุ่มๆ จะสวมใส่ออกทริปหรือวันธรรมดาก็แมตช์กับลุคของคุณได้ไม่ยากเลย
4. นาฬิกา OMEGA Seamaster Planet Ocean 600M GMT
สำหรับหนุ่มๆ ข้อมือใหญ่ที่อยากได้นาฬิกาสมบุกสมบันต้องรุ่นนี้เลย ด้วยขนาดตัวเรือนใหญ่ขึ้นที่ 43.5 มม. มากับฟังก์ชั่น GMT แสดงเวลาสองไทม์โซนและกันน้ำลึก 600 เมตร ทำให้นาฬิกาตระกูลนี้พร้อมลุยไปกับคุณทุกที่ทุกเวลา โดยยังคงเสน่ห์ของนาฬิกาหรูผ่านวัสดุพรีเมียมทั้งเซรามิกขึ้นรูปครั้งเดียวหรือไทเทเนียมทำให้นาฬิกามีน้ำหนักเบา แต่ยังคงความทนทานไว้เช่นเดิม
5. นาฬิกา OMEGA Seamaster 300
สำหรับคนชอบนาฬิกาสไตล์วินเทจ ควรถอยเรือนนี้ออกทริปเลย เพราะดีไซน์ที่ตกทอดมาจากนาฬิการุ่นบุกเบิกจนเป็นมนต์เสน่ห์ไม่เหมือนเรือนไหน บวกกับหน้าปัดแซนด์วิชและสีโทนเย็นทุกรายละเอียด ทำให้นาฬิกากลายเป็นไอเทมเด็ดที่แมตช์กับลุคต่างๆ ได้ไม่ยาก อย่างไรก็ดีแม้ภายนอกจะดูวินเทจ แต่ข้างในติดตั้งกลไกระดับ Master Chronometer มอบความเที่ยงตรงอย่างเหนือชั้น นักเดินทางไม่มีผิดหวังแน่นอน เพื่อนๆ เห็นตัวเลือกทั้งหมดแล้วตัดสินใจจะถอยเรือนไหนออกทริป บอกให้เรารู้หน่อย
ที่มา : Omega Lovers