อาการเจ็บ เอ็นร้อยหวายอักเสบ เกิดจากสาเหตุใด วิธีรักษา ประคบร้อนหรือเย็น?

หากคุณมีอาการปวดเอ็นร้อยหวาย หรือ เจ็บบริเวณหลังส้นเท้าเวลาเดิน วิ่ง หรือ ในขณะที่กำลังทำกิจกรรมอยู่ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายว่าคุณกำลังเข้าข่ายเป็น เอ็นร้อยหวายอักเสบ ซึ่งอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบเป็นอาการที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้เคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก และผู้ที่มีอาการเจ็บหลังส้นเท้าที่ไม่ได้เข้ารับการรักษาที่ถูกวิธี อาจจะทำให้เอ็นร้อยหวายอักเสบและฉีกขาดได้

บทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจเกี่ยวกับภาวะเอ็นร้อยหวายอักเสบ ไม่ว่าจะเป็น สาเหตุที่ทำให้ปวดส้นเท้าเอ็นร้อยหวาย ปัจจัยที่กระตุ้นให้เจ็บหลังส้นเท้า พร้อมทั้งวิธีรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบและแนวทางในการป้องกันที่ถูกวิธีที่ช่วยให้อาการเจ็บหายขาด!

อาการเจ็บ เอ็นร้อยหวายอักเสบ เกิดจากสาเหตุใด วิธีรักษา ประคบร้อนหรือเย็น?

อาการเอ็นร้อยหวายอักเสบ คืออะไร

อาการเอ็นร้อยหวายอักเสบ (Achilles Tendinitis) เป็นอาการที่เจ็บบริเวณหลังส้นเท้าเวลาเดิน เล่นกีฬา หรือ เวลาทำกิจกรรมต่างๆ และอาการเจ็บจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยอาการเจ็บเส้นเอ็นร้อยหวายอักเสบมีทั้งอาการเจ็บที่มีความรุนแรงน้อยไปจนถึงระดับมาก

ซึ่งอาการเจ็บเอ็นร้อยหวายอักเสบที่ไม่รุนแรงผู้ป่วยอาจจะบรรเทาอาการเองที่บ้านได้ แต่ในบางกรณีที่มีอาการเจ็บหลังส้นเท้ารุนแรงจำเป็นต้องไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายและเข้ารับการรักษาที่ถูกวิธี

รู้จักเอ็นร้อยหวาย คืออะไร

เอ็นร้อยหวาย (Achilles Tendon) คือ เส้นเอ็นที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแรงที่สุดในร่างกายที่อยู่บริเวณด้านหลังน่อง โดยที่เอ็นร้อยหวายจะเชื่อมต่อกล้ามเนื้อน่องและส้นเท้า และทำหน้าที่เป็นเสมือนสปริงที่ช่วยส่งแรงถีบ และลดแรงกระแทกในขณะเราลุกขึ้นยืน เดิน วิ่ง กระโดด หรือในขณะที่เคลื่อนไหวร่างกาย

ทั้งนี้เอ็นร้อยหวายเป็นอวัยวะที่ใช้งานเกือบตลอดเวลา ส่งผลให้อาการเอ็นร้อยหวายอักเสบสามารถเกิดกับทุกคนได้ และมักเกิดกับผู้ที่ใช้งานเอ็นร้อยหวายหนัก เช่น นักกีฬาที่มีการเร่งและชะลอความเร็ว หรือ กระโดดบ่อยๆ เป็นต้น

อาการเอ็นร้อยหวายอักเสบ

เอ็นร้อยหวายอักเสบมักจะเกิดกับผู้ใช้งานเอ็นร้อยหวายหนัก ไม่ว่าจะเป็น การเดิน วิ่ง ยืน และ กระโดด โดยอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบที่สามารถพบได้บ่อยๆ มีดังนี้

  • รู้สึกเจ็บ ปวด บริเวณหลังส้นเท้า ในขณะเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ตอนยืน เดิน วิ่ง และกระโดด
  • มีอาการปวดรุนแรงหลังจากที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จ
  • ผู้ที่มีอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบอาจจะมีอาการบวม และร้อนบริเวณหลังส้นเท้า
  • กล้ามเนื้อที่น่องจะตึงมากกว่าปกติ เมื่อสัมผัสที่น่องจะรู้สึกแน่นๆ เนื่องจากกล้ามเนื้อตึงเครียด
  • เวลางอเท้าจะรู้สึกว่าเคลื่อนไหวไม่ถนัด รู้สึกสะดุดเวลาเคลื่อนไหว

ทั้งนี้หากผู้ป่วยเอ็นร้อยหวายอักเสบมีอาการปวดรุนแรงควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมวิธีรักษาที่ช่วยบรรเทาอาการปวดได้

เอ็นร้อยหวายอักเสบ สาเหตุเกิดจากอะไร

สาเหตุของเอ็นร้อยหวายอักเสบส่วนใหญ่มักจะมาจากการใช้งานเอ็นร้อยหวายหนักเกินไป หรือ ทำกิจกรรมเดิมซ้ำๆ จนทำให้เอ็นร้อยหวายตึงและบาดเจ็บในที่สุด โดยเจ็บเอ็นร้อยหวายเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้

1.การใช้งานข้อเท้าเกินพอดี

เนื่องจากเอ็นร้อยหวายเป็นเส้นเอ็นที่อยู่บริเวณน่องและเชื่อมต่อไปยังส้นเท้า ทำให้เมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย เอ็นและกล้ามเนื้อบริเวณรอบๆ เอ็นร้อยหวายจะทำงาน ไม่ว่าจะเป็น การนั่ง การเดิน การยืน หรือ กระโดดก็ตาม

ดังนั้นอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบมักเกิดกับนักกีฬาที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมากๆ หรือกีฬาบางประเภทที่ต้องกระโดดบ่อยๆ จนทำให้เอ็นร้อยหวายตึงและได้รับบาดเจ็บในที่สุด

2.ออกกำลังกายและการเล่นกีฬา

ผู้ป่วยบางคนอาจจะรู้สึกเจ็บบริเวณหลังส้นเท้าหลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จ เนื่องจากการออกกำลังกายอาจจะกระตุ้นให้เกิดความเครียดต่อเส้นเอ็น เช่น การวิ่ง การกระโดด หรือ การเพิ่มระยะเวลาในการออกกำลังกายอย่างรวดเร็วโดยที่ร่างกายยังไม่สร้างความคุ้นเคยเพื่อปรับตัว

นอกจากนี้ผู้ที่มีอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบบางรายอาจจะเกิดการไม่ได้ยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสมทั้งก่อนและหลังออกกำลัง ส่งผลให้เส้นเอ็นตึงเกินไป และเมื่อออกกำลังกายที่ก่อให้เกิดแรงกระชากจะทำให้เอ็นร้อยหวายเกิดการอักเสบในที่สุด

3.การตึงตัวของกล้ามเนื้อ

การตึงตัวของกล้ามเนื้อเป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้เอ็นร้อยหวายอักเสบ เนื่องจากกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่เกิดการตึงและความเครียดมากเกิดไป สามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ง่ายกว่า กล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่นและได้รับการยืดเหยียดที่เหมาะสม

4.การอักเสบจากโรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อ

อาการเอ็นร้อยหวายอักเสบสามารถพบได้ในผู้ที่มีกระดูกงอกบริเวณส้นเท้า ซึ่งทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างส้นเท้าและเอ็นร้อยหวายทำให้เกิดอาการปวดและอักเสบในที่สุด นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อ ได้แก่ โรครูมาตอยด์ และ โรคเก๊าท์ มีโอกาสที่จะเป็นเอ็นร้อยหวายอักเสบได้

ปัจจัยเสี่ยงกระตุ้นเอ็นร้อยหวายอักเสบ

นอกจากการใช้งานเอ็นร้อยหวายหนัก และสาเหตุที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่สามารถกระตุ้นอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบได้ ดังนี้

  • อาการเอ็นร้อยหวายอักเสบมักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
  • การทานยาบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ หรือ ฟลูออโรควิโนโลน
  • ผู้ที่มีอายุมากจะมีโอกาสเป็นเอ็นร้อยหวายอักเสบได้มากกว่า เนื่องจากเอ็นร้อยหวายเสื่อมสภาพ
  • ผู้ที่เป็นโรคประจำตัว เช่น โรคเก๊าท์ โรคมารูตอยด์ หรือ ความดันโลหิตสูง
  • ผู้ที่มีภาวะเท้าผิดรูปและภาวะอ้วน มีโอกาสเป็นอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบได้มากกว่าคนทั่วไป

การวินิจฉัยเอ็นร้อยหวายอักเสบ

สำหรับผู้ที่มีอาการปวดส้นเท้า ปวดข้อเท้า และน่องที่มีสาเหตุมาจากเอ็นร้อยหวายอักเสบ อย่างแรกแพทย์จะทำการวินิจฉัยด้วยการซักประวัติเบื้องต้นและอาการปวดบวมของผู้ป่วย พร้อมทั้งประเมินการเคลื่อนไหวและความยืดหยุ่นของเท้าและข้อเท้าของผู้ป่วย

โดยแพทย์จะให้ผู้ป่วยลองยืนบนลูกบอล ให้งอเข่าบนเก้าอี้โดยให้ปลายเท้าพ้นจากขอบเก้าอี้ หรือนอนคว่ำบนเตียงร่วมกับเหยียดขา และแพทย์จะทำการบีบที่บริเวณน่องของผู้ป่วย ถ้าหากผู้ป่วยมีอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบผู้ป่วยจะไม่สามารถขยับเท้าได้

1.การตรวจเอกซเรย์ (X-Ray)

สำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บ บวม และแสบร้อนที่บริเวณน่องและส้นเท้า แพทย์อาจจะใช้การตรวจเอกซเรย์ร่วมด้วยเพื่อการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำ โดยการตรวจเอกซเรย์เป็นการตรวจหาว่าเท้าและกระดูกขามีการแตกหักร่วมด้วยหรือไม่

2.การอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound)

การอัลตร้าซาวด์เป็นการตรวจเพื่อดูการเคลื่อนไหวของเส้นเอ็น พร้อมทั้งตรวจหาความเสียหายของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น นอกจากนี้การตรวจแบบอัลตร้าซาวด์ยังสามารถเห็นการไหลเวียนของเลือดได้ด้วย โดยการอัลตร้าซาวด์จะใช้คลื่นเสียงตรวจเพื่อแสดงภาพเนื้อเยื่ออ่อนในร่างกายของผู้ป่วย

3.การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI Scan)

วิธีการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือที่เรียกกันว่า MRI Scan เป็นการใช้คลื่นวิทยุร่วมกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อตรวจหาความผิดปกติของเอ็นร้อยหวาย โดยการตรวจด้วยวิธี MRI จะช่วยให้แพทย์เห็นความผิดปกติของเอ็นร้อยหวายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การฉีกขาดของเอ็นร้อยหวาย การเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อ และรายละเอียดต่างๆ ของเส้นเอ็น

แนวทางการรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบ

แนวทางในการรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบมีหลายแบบ ทั้งนี้การรักษาจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรคและดุลยพินิจของแพทย์ โดยการรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบ มีดังนี้

1.วิธีรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบเบื้องต้น

การพักการใช้งานข้อเท้า

วิธีนี้เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ปวดที่มีอาการปวดเพียงเล็กน้อย หรือผู้ป่วยที่เพิ่งเป็นเอ็นร้อยหวายอักเสบระยะแรก โดยแพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่อาจจะส่งผลเสียต่อเอ็นร้อยหวาย และหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณเอ็นร้อยหวาย

การรักษาด้วยการประคบเย็น

เอ็นร้อยหวายอักเสบต้องประคบร้อนหรือประคบเย็น ? การประคบเย็นสามารถช่วยลดอาการปวดและบวมที่มีสาเหตุมาจากเอ็นร้อยหวายอักเสบได้ โดยแนะนำให้ใช้แผ่นประคบเย็น หรือ น้ำแข็งห่อด้วยผ้าขนหนูประคบไว้บริเวณที่เส้นเอ็นอักเสบ ประมาณ 15 - 20 นาที

การรัดผ้าพันแผลบริเวณข้อเท้า

การรัดผ้าพันแผลบริเวณเส้นเอ็นที่อักเสบสามารถช่วยลดอาการบวมและช่วยลดการเคลื่อนไหวของเส้นเอ็นบริเวณที่อักเสบได้ แต่การรัดผ้าพันแผลผู้ป่วยไม่ควรรัดผ้าพันแผลแน่นจนเกินไป เพราะทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และก่อให้เกิดผลเสียได้

การยกเท้าบริเวณเหนืออก

สำหรับผู้ที่มีอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบเบื้องต้น และบริเวณข้อเท้าและเท้ามีอาการบวม แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยนอนราบและใช้หมอนหนุนที่เท้าให้ระดับเท้าสูงกว่าระดับอก เพื่อให้เลือดไหลเวียนกลับเข้าสู่หัวใจ ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมได้

2.การใช้ยารักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบ

เอ็นร้อยหวายอักเสบกินยาอะไร? ยาต้านการอักเสบ สำหรับผู้ที่มีอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบที่มีอาการปวดความรุนแรงปานกลาง แพทย์อาจจะจ่ายยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโฟรเฟน และ นาพรอกเซน เป็นต้น เพื่อช่วยลดอาการปวดและการบาดเจ็บ

3.การทำกายภาพบำบัด

การทำกายภาพบำบัดสำหรับผู้ที่มีอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบจะเป็นการทำกายภาพที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของเอ็นร้อยหวายที่อักเสบ โดยใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ เข้ามาช่วยเพื่อเสริมการทำหน้าที่ของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกายแบบเอกเซนตริก (Eccentric) หรือการใส่อุปกรณ์ในรองเท้าหรือบริเวณส้นเท้า เป็นต้น

4.การฉีดยาสเตียรอยด์

วิธีการฉีดยาสเตียรอยด์เพื่อรักษาอาการเจ็บปวดที่มีสาเหตุมาจากเอ็นร้อยหวายอักเสบ อาจจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก เพราะการฉีดสเตียรอยด์เพื่อแก้ปวดเอ็นร้อยหวายอักเสบ เป็นวิธีบรรเทาอาการปวดชั่วคราวสามารถทำให้เส้นเอ็นฉีกขาดได้

5.การผ่าตัดเอ็นร้อยหวายอักเสบ

ผู้ป่วยที่มีอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบรุนแรง เอ็นร้อยหวายฉีกขาด และไม่สามารถรักษาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดได้ด้วยวิธีที่กล่าวมาข้างต้น แพทย์จะแนะนำการผ่าตัดเพื่อรักษาและซ่อมแซมเส้นเอ็นที่ได้รับบาดเจ็บ โดยการผ่าตัดเอ็นร้อยหวายฉีกขาด มีทั้งหมด 2 แบบ ดังนี้

การผ่าตัดเอ็นร้อยหวายแบบแผลเปิด

การผ่าตัดแบบแผลเปิดเป็นการผ่าตัดเพื่อเย็บซ่อมเอ็นร้อยหวายให้แข็งแรง โดยแพทย์จะเปิดแผลขนาดประมาณ 10 - 15 เซนติเมตร ซึ่งการผ่าตัดแบบแผลเปิดจะมีแผลที่ค่อนข้างใหญ่ และทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ช้า นอกจากนี้การผ่าตัดแบบแผลเปิดยังมีโอกาสติดเชื้อได้สูงกว่า

การผ่าตัดเอ็นร้อยหวายแบบแผลเล็ก

การผ่าตัดเอ็นร้อยหวายแบบแผลเล็กเป็นเทคนิคผ่าตัดใหม่ ที่จะช่วยให้แผลผ่าตัดเล็กลง ซึ่งขนาดแผลจะมีขนาดแค่ 3 - 4 เซนติเมตร โดยแพทย์จะใช้อุปกรณ์ผ่าตัดพิเศษที่ทำให้แผลเล็กลง นอกจากนี้ยังการผ่าตัดแบแผลเล็กทำให้โอกาสการติดเชื้อลดลง รวมไปถึงการระยะเวลาที่พักฟื้นหลังผ่าตัดน้อยลงด้วย

ภาวะแทรกซ้อนจากเอ็นร้อยหวายอักเสบ

นอกจากผู้ป่วยเอ็นร้อยหวายอักเสบจะรู้สึกปวด เจ็บ และบวมบริเวณข้อเท้าและเท้าในขณะทำกิจวัตร และทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันแล้ว อาการเอ็นร้อยหวายอักเสบที่มีรุนแรงสามารถทำให้เอ็นร้อยหวายฉีกขาด หรือผู้ป่วยบางรายอาจจะไม่ได้เข้ารับการรักษาอาจจะส่งผลให้เป็นเอ็นร้อยหวายอักเสบเรื้อรัง ทำให้ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารักษาด้วยวิธีผ่าตัด ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน และภาวะเลือดออกในเนื้อเยื่อ เป็นต้น

วิธีการป้องกันเอ็นร้อยหวายอักเสบ

แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีที่สามารถป้องกันอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบได้ 100% แต่ยังมีวิธีที่สามารถลดความเสี่ยงที่ก่อให้เอ็นร้อยหวายอักเสบ ซึ่งสามารถปฏิบัติตามได้ดังต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการโหมออกกำลังกายอย่างหนัก และเมื่อมีอาการปวดระหว่างที่ออกกำลังกายควรหยุดทันที
  • ยืดเหยียดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นทุกวันในตอนเช้า เพื่อลดอาการตึงของเส้นเอ็น
  • เลือกใส่รองเท้าที่ช่วยลดรับแรงกดและแรงกระแทกได้ดี และหลีกเลี่ยงการสวมใส่รองเท้าส้นสูง
  • ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
  • เล่นกีฬาหลายชนิด เพื่อไม่ให้เอ็นร้อยหวายทำงานหนักจนเกินไป

ท่าบริหารเอ็นร้อยหวาย

หากคนไข้เริ่มมีอาการปวดส้นเท้าเอ็นร้อยหวาย หรือเริ่มมีอาการปวดข้อคนไข้จะต้องทำท่าบริหารเพื่อเป็นการบรรเทาอาการปวดของเส้นเอ็น โดยวิธีแก้ปวดเอ็นร้อยหวายสามารถทำได้ที่ไหนก็ได้ และท่าบริหารเอ็นร้อยหวายมีดังนี้

ท่าที่ 1 จะต้องนั่งเหยียดขาข้างหนึ่งออกไปตรงๆ โดยจะใช้ผ้าคล้องไว้ที่ปลายเท้า แล้วทำการดึงเข้าหาตัวเรา ดึงจนรู้สึกว่าน่องด้านหลังตึง ให้ยืดค้างไว้ 15-20 วินาที/ครั้ง (ทำ5-10ครั้ง)

ท่าที่ 2 ทำการยืนหันหน้าเข้ากำแพง โดยใช้มือยันกำแพงไว้ และถอยเท้าที่ต้องการทำการยืดไว้ข้างหลังระยะประมาณ 2 ก้าว และย่อเขาด้านหน้าลงแต่จะต้องไม่ให้เข่าเลยปลายเท้า ขาด้านหลังต้องเหยียดตึง ส้นเท้าต้องติดพื้นตลอด ยืดจนน่องตึงทำค้างไว้ 15-20 วินาที/ครั้ง (ทำ3-4ครั้ง)

ท่าที่ 3 ยืนเหมือนท่าที่2 แต่จะเปลี่ยนเป็นงอเข่าที่อยู่ข้างหลังเล็กน้อย ส้นเท้าต้องติดพื้น ทำจนรู้สึกน่องส่วนบนตึง ยืดค้างไว้ 15-20 วินาที/ครั้ง (ทำ5-10ครั้ง)

ท่าที่ 4 จะต้องนั่งและทำการวางฝ่าเท้าไว้บนลูกเทนนิสหรือขวดน้ำ จากนั้นให้ทำการคลึงไปมาบริเวณใต้ฝ่าเท้า ทำจนรู้สึกว่าเส้นเอ็นมันคลายตัว

ท่าที่ 5 ต้องนั่งห้อยขาลงพื้น โดยจะต้องนำเท้าที่ปวดมาพาดบนหน้าตักของอีกข้าง และทำการใช้มือจับบริเวณนิ้วเท้าให้กระดกขึ้นจนรู้สึกตึงฝ่าเท้า ยืดค้างไว้ 15-20 วินาที/ครั้ง (ทำ5-10ครั้ง)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเอ็นร้อยหวายอักเสบ

คำถามที่คนส่วนใหญ่มักสงสัยว่าหลังจากที่ได้ทำการรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบแล้ว จะสามารถกลับมาเดินหรือเล่นกีฬาได้อีกหรือไม่ และหลังจากทำการรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบมาแล้วจะต้องประคบร้อนหรือเย็น วันนี้เรามีคำตอบให้คุณ

หากเป็นเอ็นร้อยหวายอักเสบ เมื่อไรจึงจะกลับไปเล่นกีฬาได้?

ถ้าหากว่าคนไข้ได้ทำการรักษาโรคข้ออักเสบหรือได้ทำการรักษาเส้นเอ็นร้อยหวายอักเสบแล้ว จะสามารถทำการกลับมาเล่นกีฬาได้อีกก็ต่อเมื่อทางแพทย์ได้ทำการประเมินดูแล้วว่าสามารถกลับไปเล่นได้ แต่ปกติแล้วคนไข้จะสามารถกลับไปเล่นกีฬาได้อีกครั้งจะต้องใช้เวลา 9 เดือน - 1 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับการหมั่นทำกายบริหารของแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน

เอ็นร้อยหวายอักเสบ ควรประคบร้อนหรือเย็น?

เอ็นร้อยหวายอักเสบจะมีอาการบวม แดง และเจ็บบริเวณเส้นเอ็น และอาจจะลามไปถึงน่อง หากมีอาการเหล่านี้ให้ควรหยุดพักจากการเดินหรือวิ่ง และใช้การประคบเย็นช่วย จะต้องประคบบ่อยๆจะช่วยทำให้หายเร็วยิ่งขึ้น และอาการปวดจะต้องหาย100%ก่อนกลับไปวิ่งหรือออกกำลังกายอีกครั้ง

บทสรุปส่งท้าย

เอ็นร้อยหวายอักเสบมักเกิดจากการใช้งานหนัก การทำกิจกรรมบางอย่าง และการเล่นกีฬาบางประเภทที่จำเป็นต้องใช้งานขาและข้อเท้าหนักจนทำให้เส้นเอ็นเกิดการตึงและบาดเจ็บในที่สุด โดยอาการเอ็นร้อยหวายอักเสบส่วนใหญ่มักจะพบในผู้ป่วยที่เป็นนักกีฬา เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล และการวิ่งมาราธอน

ทั้งนี้อาการเอ็นร้อยหวายอักเสบสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยมีวิธีการรักษาที่หลากหลายตามระดับความรุนแรงของโรค แต่วิธีรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบที่ดีที่สุดคือการไปพบแพทย์และเข้ารับการรักษาที่ถูกวิธี จะเป็นการรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบที่ถูกวิธีและใช้เวลารักษาน้อยที่สุด

หากคุณมีอาการปวดบริเวณหลังส้นเท้าและน่องเวลาทำกิจกรรมต่างๆ สามารถติดต่อสอบถามกับทีมแพทย์เฉพาะทางโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ได้ที่ Line @samitivejchinatown หรือเบอร์ 02-118-7893 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดเพิ่มเติม

โพสต์ยอดนิยมแห่งปี

สตาร์เกิลจี ช่วยอะไร อันตรายไหม ใช้ยังไง วิธีใช้ ประโยชน์ ดีไหม ซื้อที่ไหน ราคาถูก.

วิธีเลี้ยงปลาออสก้า รวมกับปลาอะไรได้บ้าง อาหารปลาออสก้าชอบกินอะไร ยี่ห้อไหนดี.

น้ำยาเร่งราก บีสตาร์ท B Start ใส่ตอนไหน วิธีใช้ ประโยชน์ ดีไหม ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก.

ตุ๊กตาหมี care bear แคร์แบร์ มีทั้งหมดกี่สี ของแท้ดูยังไง ความหมายนิสัยของแต่ละสี.

ปุ๋ยออสโมโค้ท 13-13-13 ปุ๋ยเม็ดละลายช้า ประโยชน์ช่วยอะไร วิธีใช้ ใส่ยังไง ราคาถูก.

เสื้อชั้นใน ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก รุ่นใหม่ล่าสุด Sabina Braless เสื้อใน ชุดชั้นใน ราคาถูก.

ชุดออเจ้า แม่พุดตาน "พรหมลิขิต" ชุดไทย บุพเพสันนิวาส, ชุดแม่การะเกด ชุดพุดตาล.

ลําโพงร้องคาราโอเกะ, ชุดคาราโอเกะบ้าน เครื่องเสียงคาราโอเกะ เสียงดี ยี่ห้อไหนดี.

วิธีเลี้ยงปลาหางนกยูง'ให้อาหารวันละกี่ครั้ง กินอะไรได้บ้าง? สูตรอาหารปลาหางนกยูง.

ปลาสอด สายพันธุ์ต่างๆ มีกี่พันธุ์' อะไรบ้าง ปลาแพลทตี้ วิธีเลี้ยงยังไง? ออกลูกเป็นตัว.

มือถือและอุปกรณ์เสริม

เครื่องเสียงและลำโพง

อุปกรณ์และเครื่องมือช่าง

ระบบไฟฟ้า&ความปลอดภัย

โคมไฟและหลอดไฟ

ประตูและหน้าต่าง

ห้องครัวและอุปกรณ์ครัว

ห้องนอนและเครื่องนอน

เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน

ผลิตภัณฑ์สําหรับแม่และเด็ก

ระบบน้ำประปาและอุปกรณ์

สุขภาพและความงาม

ของใช้ภายในบ้าน

กีฬาและออกกำลังกาย

ท่องเที่ยวและการเดินทาง