นกปรอดสวน ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อสามัญ ลักษณะทั่วไป นิสัย กินอะไร แหล่งที่พบ.
เนื้อหาข้อมูล นกปรอดสวน
- นกปรอดสวน คืออะไร?
- อุปนิสัย และ แหล่งที่พบ
- กินอะไร? เป็นอาหาร
- ชื่อวิทยาศาสตร์
- ชื่อสามัญ ภาษาอังกฤษ
- ความหมายของชื่อ และ การค้นพบ
- อนุกรมวิธาน
- ลักษณะทั่วไป
- การสืบพันธุ์
- การแพร่กระจาย
- สถานภาพ
นกปรอดสวน คืออะไร?
นกปรอดสวน คือสัตว์ปีกจำพวกนกชนิดหนึ่งในกลุ่มนกประจำถิ่น ซึ่งดำรงชีวิตอาศัยอยู่ตามธรรมชาติในประเทศไทย มีสถานภาพทางกฎหมาย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองของไทย
นกปรอดสวนเป็นสัตว์มีแกนสันหลังซึ่งอยู่ในกลุ่มสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง โดยอยู่ในจำพวกสัตว์จำพวกนก ซึ่งสัตว์จำพวกนี้เป็นสัตว์เลือดอุ่น หายใจโดยใช้ปอด มีจะงอยปากแข็ง ฟันลดรูป กระดูกทั่วร่างกายเป็นโพรง ซึ่งทำให้มีน้ำหนักเบา ขาคู่หน้าพัฒนาไปเป็นปีก มีปีก 1 คู่ มีขา 1 คู่ มีรูปร่างเพรียวปกคลุมด้วยขน มีขนเป็นแผง มีเกล็ดที่ขาและนิ้วเท้า ทำรังวางไข่บนบก ไข่มีเปลือกแข็งหุ้ม
อุปนิสัย และ แหล่งที่พบ
นกปรอดสวน; photo by Andy_LYT.
นกปรอดสวน เป็นนกที่พบตามป่าเบญจพรรณ ป่ารุ่น ป่าละเมาะ สวน ผลไม้ แหล่งกสิกรรม และในหมู่บ้านและเมืองในระดับต่ำ จนกระทั่งเชิงเขา มักพบเป็นคู่ หรือฝูงเล็กๆ เป็นนกที่คุ้นเคยกันมากชนิดหนึ่ง หากินตามต้นผลไม้ ไม้พุ่ม และลงมายัง พื้นดินเป็นครั้งคราว มักเกาะในบริเวณที่เป็นที่โล่ง ในช่วงกลางวันที่อากาศร้อนอาจจะหลบ ตามพุ่มไม้
กินอะไร? เป็นอาหาร
อาหารของนกปรอดสวน อาหารได้แก่ผลไม้ต่างๆเช่นไทร หว้าชมพู่ มะละกอ มะม่วง และผลดำถึงสุก เป็นต้น โดยที่นกจะเกาะตามกิ่งก้านที่มีผลสุก ใช้ปากเด็ดผลไม้ออกจากขั้วแล้วกลืนกินทั้งผล สำหรับผลไม้ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก หรือ ใช้ปากจิกกินที่ละชิ้น สำหรับผลไม้ที่มีขนาดใหญ่
นอกจากนี้ก็ยังกินแมลง และตัวหนอน โดยจิกกินตามลำต้น กิ่งก้าน และยอดไม้ หรือ บางครั้งก็ไล่จิกกินตามพื้นดิน และบ่อยครั้งที่โฉบจับแมลงกลางอากาศ แต่ไม่ไกลจากที่เกาะมากนัก
ชื่อวิทยาศาสตร์
นกปรอดสวน ชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Pycnonotus blanfordi Jerdon, 1862 เป็นนกในสกุล Pycnonotus โดยอยู่ในวงศ์นกปรอด (Pycnonotidae) ซึ่งนกในวงศ์นี้อยู่ในอันดับนกจับคอน (Passeriformes)
ชื่อสามัญ ภาษาอังกฤษ
นอกจากมีชื่อไทยว่า'นกปรอดสวน'นี้แล้ว ยังมีชื่อสามัญ (Common name) ภาษาอังกฤษ ว่า Streak-eared Bulbul และมีชื่ออื่น ๆ (Other name) อีก เช่น Blanford's Bulbul, Blanford's Olive Bulbul.
ความหมายของชื่อ และ การค้นพบ
ชื่อชนิด เป็นคำที่มาจากชื่อของบุคคลคือ W.T.Blanford (1832-1905) นักธรณีวิทยา นักสัตววิทยา และนักสะสมตัวอย่างสัตว์ชาวอังกฤษ เป็นชนิดที่พบครั้งแรกในประเทศพม่า
ทั่วโลกมึนกปรอดสวน 3 ชนิดย่อย ประเทศไทยพบชนิดย่อยเดียวคือ Pycnonotus blanfordi conradi (Finsch) ชื่อชนิดย่อยเป็นคำที่มาจากชื่อของบุคคล เป็นชนิดย่อยที่พบครั้งแรกบริเวณ กรุงเทพมหานคร ในภาคกลางของประเทศไทย
อนุกรมวิธาน (Taxonomy)
- อาณาจักร (Kingdom) : Animalia
- ไฟลัม (Phylum) : Chordata
- ไฟลัมย่อย (Subphylum) : Vertebrata
- ชั้น (Class) : Aves
- อันดับ (Order) : Passeriformes
- วงศ์ (Family) : Pycnonotidae
- สกุล (Genus) : Pycnonotus
ลักษณะทั่วไป
นกปรอดสวน มีลักษณะเป็นนกที่มีขนาดเล็ก (20 ซม.) ลักษณะทั่วไปไม่แตกต่างจากนก ปรอดสีไพลใหญ่ แต่สีสันโดยทั่วไปจะจางกว่า คาสีเทา (ตัวไม่เต็มวัยตาสีน้ำตาล) มีลายขีดสี ขาวบริเวณหู และมักจะเด่นชัดกว่า ปีกสีเขียว ขนคลุมโคนขนหางด้านล่างสีเหลืองอ่อน
การสืบพันธุ์
การสืบพันธุ์ของนกปรอดสวน ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูร้อน หรือระหว่างเดือน กุมภาพันธ์-เมษายน ทำรังเป็นรูปถ้วย ประกอบด้วยใบไม้แห้ง ใบหญ้าแห้ง เส้นใบมะพร้าว และวัสดุเยื่อใยอื่นๆ ทำรังดามต้นไม้หลายชนิด โดยเฉพาะไม้ผลเช่น ขนุน กระท้อน ชมพู่ มะม่วง และข่อย
รังอยู่สูงจากพื้นดิน 2.5-4.5 เมตร ขนาดของรังโดยประมาณ กว้าง 5.5 ซม. ลึก 2.3 ซม. แต่ละรังมีไข่ 2-3 ฟอง ไข่สีเนื้ออ่อน มีลายจุดสีน้ำตาลแดงทั่วฟองไข่ ขนาดของไข่โดยเฉลี่ย 16.2 x 22.9 มม. ทั้ง 2 เพศช่วยกันสร้างรัง และฟักไข่ โดยเริ่มฟักตั้งแต่ออกไข่ฟองแรก ระยะเวลาฟักไข่ทั้งสิ้น 12-14 วัน และ ช่วยกันเลี้ยงดูลูกอ่อน
ซึ่งเมื่อออกจากไข่มาใหม่ๆ ยังไม่มีขนคลุมร่างกาย พ่อแม่คอยช่วยกันหาอาหารมาป้อน ซึ่งอาหารระยะแรกๆจะ เป็นตัวหนอน และแมลง และนานๆเข้าเมื่อลูกนกโตพอประมาณ พ่อแม่จะหาผลไม้ต่างๆมา ปื้อน ใช้ระยะเวลาเลี้ยงลูกประมาณ 14-16 วัน ลูกนกจะโต แข็งแรง บินได้ และทิ้งรังไปในที่สุด
การแพร่กระจาย
การแพร่กระจายของนกปรอดสวน เป็นนกเฉพาะถิ่น ที่พบเฉพาะในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ยกเว้นมาเลเซียตอนใต้ พม่าด้านตะวันออกเฉียงเหนือ และเวียดนามตอนเหนือ
สถานภาพ
นกปรอดสวน มีสถานภาพตามฤดูกาล (Seasonal status) เป็น นกประจำถิ่น พบได้บ่อยและปริมาณมากพบทั่วทุกภาค มีสถานภาพทางกฎหมาย (Legal status) เป็น สัตว์ป่าคุ้มครอง และมีสถานภาพการอนุรักษ์ (Conservation status) เป็น กลุ่มที่เป็นกังวลน้อยที่สุด (Least concern)
ที่มา : กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า, สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช.